คำอธิบาย มาร่วมสำรวจศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างสรรค์ท่าเต้นไทยร่วมสมัย ผ่านการทดลองใช้เว็บแอปพลิเคชัน “cyber subin lab” เรียนรู้การประยุกต์องค์ความรู้ดั้งเดิมผ่านเทคโนโลยี เพื่อสร้างมิติใหม่ของนาฏศิลป์
เหมาะสำหรับ มัธยม, มหาวิทยาลัย และผู้ที่สนใจเทคโนโลยีและนาฏศิลป์
คำชี้แจง กิจกรรมเน้นการลองผิดลองถูก การค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ผ่านการทดลอง ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด
สิ่งที่จะได้เรียนรู้
- ประสบการณ์ในการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ
- ความเข้าใจพื้นฐานในการทำงานของ algorithm กับการสร้างภาพเคลื่อนไหว
- การบูรณาการความรู้ด้านนาฏศิลป์ดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่
- ทักษะการสังเกต ทดลอง และปรับใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ในการพัฒนางาน
สนุกอย่างไร
- ได้ลองเป็นผู้กำกับท่าเต้นให้กับหุ่นยนต์หรือตัวละครเสมือนจริง
- สร้างชุดท่าเต้นที่ไม่ซ้ำใคร ผสมผสานจินตนาการกับปัญญาประดิษฐ์
กิจกรรม (ใช้เวลา 90-120 นาที)
- แนะนำ “cyber subin lab” เว็บแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ในการสร้างท่าเต้นร่วมกับนักเต้นมนุษย์ ให้ผู้เรียนทดลองสั่งงานด้วยเสียงเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวละคร
- สำรวจเมนูแบบเลื่อนลงที่ให้ทางเลือกขององค์ประกอบการออกแบบท่าเต้น เช่น “พลังงาน” และรายละเอียดอื่นๆ ที่ปรับแต่งได้ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของท่าทางเมื่อค่าพารามิเตอร์ถูกปรับ
- ชวนอภิปรายกันในกลุ่มว่า ระบบ AI ในเว็บแอปนี้สร้างท่าเต้นขึ้นมาได้อย่างไร มีกระบวนการหรือหลักการทำงานแบบใด เพื่อแลกเปลี่ยนความเข้าใจเบื้องต้น
- ศึกษาองค์ประกอบการออกแบบท่าเต้น 6 ประการ (6 elements) ของ No.60 จากกรณีตัวอย่างในแม่บทใหญ่ จากนั้นให้แต่ละคนเลือกปรับค่าพารามิเตอร์ที่เชื่อมโยงกับแต่ละองค์ประกอบ สังเกตผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับท่าเต้นของตัวละคร
- ทำงานเป็นคู่หรือกลุ่มย่อย เลือกเพลงที่สนใจคนละ 1 เพลง ให้แต่ละคนผลัดกันทดลองสร้างท่าเต้นให้สอดคล้องกับจังหวะดนตรีโดยใช้เว็บแอป ระดมสมองภายในกลุ่มเพื่อปรับแก้ท่าทางให้ลื่นไหลและสื่อสารอารมณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- นำเสนอผลงานท่าเต้นประกอบเพลงของแต่ละกลุ่ม ผู้ชมสามารถให้ข้อมูลย้อนกลับถึงความประทับใจและจุดที่น่าสนใจ เปิดโอกาสให้ผู้สร้างงานได้แบ่งปันแนวคิดและกระบวนการทำงาน
- ร่วมกันระดมสมองถึงความเป็นไปได้ในอนาคต สิ่งที่อยากเห็นเพิ่มเติมจากการทดลองครั้งนี้ ทั้งในแง่ขององค์ความรู้ด้านนาฏศิลป์ เครื่องมือหรือเทคโนโลยี รวมถึงการประยุกต์ใช้ในงานด้านอื่นๆ
- สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ทั้งในมิติของศิลปะการเต้น การใช้เทคโนโลยี และประสบการณ์จากการลงมือทำ บอกเล่าความรู้สึกและข้อค้นพบระหว่างการทดลองสร้างสรรค์ผลงาน
หัวข้อสนทนา
- AI ช่วยให้การสร้างสรรค์ท่าเต้นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้นหรือไม่ อย่างไร มีข้อจำกัดหรือความท้าทายใดบ้าง
- การเรียนรู้ผ่านการลองผิดลองถูกและการทดลองปรับเปลี่ยนค่าพารามิเตอร์ ช่วยให้เข้าใจการออกแบบท่าเต้นในเชิงลึกมากขึ้นหรือไม่ เพราะเหตุใด
- องค์ความรู้จากนาฏศิลป์ไทยสามารถให้ข้อมูลหรือกรอบการสร้างท่าเต้นแก่ระบบ AI ได้มากน้อยเพียงใด จำเป็นต้องมีการปรับให้สอดคล้องกับวิธีการของ AI หรือไม่
- การผสมผสานระหว่างศิลปะการเต้นแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีปัจจุบัน ก่อให้เกิดรูปแบบการแสดงแนวใหม่ที่น่าสนใจหรือไม่ อย่างไร จะมีผลต่อวงการนาฏศิลป์ในระยะยาวหรือไม่
- กิจกรรมนี้ช่วยขยายความเข้าใจต่อการนำ AI มาใช้ในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากงานศิลปะหรือไม่ ผู้เรียนมองเห็นการประยุกต์ใช้ที่เป็นไปได้อย่างไรบ้าง
เพิ่มเติม
- ลองเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลุกขึ้นมาเต้นร่วมกับตัวละครเสมือนจริง สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของมนุษย์กับภาพเคลื่อนไหวที่สร้างโดย AI
- อาจใช้เทคโนโลยี motion capture หรือใช้กล้องเว็บแคมธรรมดาเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้เต้น แล้วส่งข้อมูลไปประมวลผลแบบ real-time ให้ตัวละครเสมือนจริงตอบสนองการเคลื่อนไหวนั้นๆ
- การเต้นร่วมกับ AI เช่นนี้จะช่วยให้ผู้เรียนได้สัมผัสกับการทำงานของระบบในเชิงลึก เห็นขอบเขตของการตอบสนองและข้อจำกัดต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม
- นอกจากนี้ผู้เรียนจะได้เรียนรู้การวางตำแหน่ง การเชื่อมต่อท่าทาง และจังหวะในการเคลื่อนไหวให้สอดคล้องกับภาพที่ระบบสร้างขึ้น ซึ่งเป็นการฝึกไหวพริบและทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- การได้เคลื่อนไหวร่างกายไปพร้อมกันจะช่วยให้เกิดความเข้าใจในงานศิลปะมากยิ่งขึ้น เกิดความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างตัวผู้เรียนเองกับสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์
- เป็นการเพิ่มระดับความท้าทายและความสนุกสนานให้กับกิจกรรม สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและกระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน
- ปูทางไปสู่การสร้างสรรค์งานนาฏศิลป์ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมมากยิ่งขึ้น เช่น การแสดงสดที่มีส่วนของการด้นสด (improvisation) ร่วมกับ AI หรือการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงที่ให้ผู้ชมได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการแสดง
กิจกรรมนี้จะช่วยผู้เรียนเข้าใจการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างงานศิลปะ เห็นความเชื่อมโยงระหว่างการออกแบบท่าเต้นแบบดั้งเดิมกับหลักการของระบบคอมพิวเตอร์ นำไปสู่การต่อยอดทางความคิดในการนำทั้งสองส่วนมาผสมผสาน เพื่อขยายขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ ผู้เรียนจะได้สัมผัสประสบการณ์ตรงในการควบคุมตัวแปรต่างๆ ผ่านการลงมือปฏิบัติ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจและจดจำแนวคิดได้ดียิ่งขึ้น การนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นยังส่งเสริมการเรียนรู้ข้ามสาขา เปิดมุมมองที่หลากหลาย อีกทั้งยังจุดประกายให้ผู้เรียนมองเห็นแนวทางใหม่ๆ ในการสานต่อมรดกทางวัฒนธรรมด้วยเทคโนโลยีร่วมสมัยอีกด้วย