Learning Idea 1: ถอดรหัสเเม่บทใหญ่ | Decoding the Dance

คำอธิบาย ชวนทุกคนมาสนุกไปกับการถอดรหัสลับที่ซ่อนอยู่ในท่ารำของนาฏศิลป์ไทยโบราณ ค้นหาความหมายและเรียนรู้ปรัชญาผ่านการเคลื่อนไหว เชื่อมโยงศิลปะการแสดงดั้งเดิมกับการเต้นยุคใหม่

 

เหมาะสำหรับ ประถม, มัธยม, มหาวิทยาลัย และบุคคลทั่วไปที่สนใจ

 

คำชี้แจง กิจกรรมไม่มีถูกหรือผิด สนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

 

สิ่งที่จะได้เรียนรู้

  • ฝึกทักษะการสังเกต วิเคราะห์ และสังเคราะห์
  • ฝึกความคิดเชิงเชื่อมโยงและบูรณาการศิลปะกับวิทยาศาสตร์
  • เข้าใจรากฐานวัฒนธรรมของนาฏศิลป์ไทยและการออกแบบท่ารำ
  • เรียนรู้การใช้ร่างกายและท่วงท่าในการถ่ายทอดอารมณ์

 

สนุกอย่างไร

  • รู้สึกเหมือนเป็นนักสืบวัฒนธรรมและนักออกแบบท่าเต้น
  • ค้นหาความลับในท่ารำและสร้างสรรค์ท่าทางในแบบฉบับของตัวเอง

 

กิจกรรม กิจกรรมเเบ่งออกเป็นสามส่วน สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม

 

Part 1: ทำความรู้จักแม่บทใหญ่ (ใช้เวลา 30-45 นาที)

ภาพรวม: เริ่มต้นจากชวนดูภาพชุดเเรกซึ่งเป็นภาพของท่าเต้นเเม่บทใหญ่ ลองจินตนาการว่าเเต่ละภาพมีความหมายอะไร เเละต้องการสื่ออะไร เปรียบเทียบชื่อเเละความหมายที่คิด กับชื่อของท่า ลองคิดว่าอะไรคือองค์หลัก หรือจุดเด่นที่อยู่ในทุกๆ ท่าหาจุดเชื่อมโยง ลองเปรียบเทียบท่าเหล่านี้กับท่าเต้นในเพลง pop ปัจจุบันเช่น K-pop ลองเปรียบเทียบเเละหาจุดเชื่อมโยง

 

 

  • แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4-5 คน แจกภาพท่ารำแม่บทใหญ่ให้แต่ละกลุ่ม (เลือกภาพที่มีความหลากหลาย เช่น ท่ายืน ท่านั่ง ท่าตีบท ท่าเชิด เป็นต้น)
  • ให้สมาชิกในกลุ่มผลัดกันแสดงความคิดเห็นว่าท่าในภาพสื่อถึงอะไร มีความหมายอย่างไร โดยเขียนคำตอบลงในกระดาษ
  • จากนั้นให้แต่ละกลุ่มนำเสนอชื่อและความหมายของท่าที่ตีความ เปรียบเทียบกับชื่อและความหมายจริงของท่ารำนั้นๆ
  • ร่วมกันอภิปรายถึงองค์ประกอบร่วมหรือจุดเด่นที่พบเห็นในทุกท่า เช่น ลักษณะการวางมือ การทิ้งน้ำหนัก ทิศทางสายตา อารมณ์ที่แสดงออก ฯลฯ
  • นำภาพหรือคลิปการเต้นสมัยใหม่ เช่น K-pop เปิดให้ชม จากนั้นให้ผู้เรียนเปรียบเทียบความเหมือนและความต่างกับท่ารำแม่บทใหญ่ พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

 

Part 2: นักสืบท่าเต้น (ใช้เวลา 45-60 นาที)

ภาพรวม: ลองดูภาพชุดที่สอง ซึ่งเป็นภาพ diagram ที่สร้างโดยพิเชษฐ์ กลั่นชื่น จากการศึกษาท่าในเเม่บทใหญ่ ลองจินตนาการว่าเส้นที่อยู่ในภาพสื่อสารอะไร ให้ความหมายอะไร ลองอ่านเรื่อง 6 elements ของ No.60 เเล้วเปรียบเทียบกับ diagram จาก diagram ที่มีอยู่เดิม ลองเลือกท่ารำมาสามท่าเเละสร้างไอเดีย diagram ของตัวเอง เเละถอดองค์ประกอบท่าของตัวเองออกมา ไม่มีถูกผิด

 

 

  • แจกภาพ diagram ของท่ารำที่สร้างโดยพิเชษฐ์ กลั่นชื่น ให้ผู้เรียนศึกษาเป็นคู่ ร่วมกันวิเคราะห์ว่าเส้นและรูปทรงในภาพสื่อความหมายอะไร
  • บรรยายเกี่ยวกับหลักการออกแบบท่ารำ 6 ประการ (6 elements) ของ No.60 ประกอบการยกตัวอย่างท่ารำในแม่บทใหญ่
  • ให้ผู้เรียนจับคู่เดิมลองปฏิบัติท่ารำตาม diagram สังเกตองค์ประกอบต่างๆ ของการเคลื่อนไหว 
  • มอบหมายให้แต่ละคู่เลือกท่ารำจากแม่บทใหญ่มา 3 ท่า แล้วลองสร้าง diagram ในแบบของตัวเอง ใช้สัญลักษณ์ เส้น สี หรือรูปทรง ถ่ายทอดองค์ประกอบของท่ารำตามความเข้าใจ
  • จัดให้มีการนำเสนอ diagram ที่ออกแบบ โดยสาธิตท่ารำประกอบ และอธิบายความคิดเชิงสร้างสรรค์ในการสร้างผลงาน เปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ซักถามและแลกเปลี่ยนมุมมอง

 

Part 3: นักออกแบบท่ารำแห่งอนาคต (ใช้เวลา 60-90 นาที)

ภาพรวม: ลองเอา diagram ใหม่ที่สร้างขึ้นมาสร้างท่าที่ไม่เคยมีอยู่เดิม อาจจะใช้สร้างท่าประกอบเพลงที่นิยมในปัจจุบัน

  • ให้แต่ละคู่นำ diagram ที่สร้างขึ้นมาปรับใช้เพื่อออกแบบท่ารำใหม่ๆ กำหนดให้มีการเคลื่อนไหวอย่างน้อย 16 จังหวะ (หรือมากกว่าตามความเหมาะสม)
  • เปิดเพลงที่นิยมในปัจจุบันหรือเพลงที่มีจังหวะหลากหลายให้ฟัง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ จากนั้นให้แต่ละคู่ลองเต้นท่าที่ออกแบบตาม diagram ประยุกต์ให้เข้ากับจังหวะดนตรี
  • เปิดโอกาสให้ซ้อมและปรับแก้ท่าทางให้ลื่นไหล มีการเชื่อมต่อของการเคลื่อนไหว ความพร้อมเพรียงของคู่ และสอดคล้องกับอารมณ์เพลง
  • จัดเวทีให้ผู้เรียนได้แสดงท่าเต้นที่ออกแบบ พร้อมเล่าถึงที่มาของแนวคิด ความหมายที่ต้องการสื่อ และการผสมผสาน diagram เข้ากับการเคลื่อนไหวแนวใหม่
  • เชิญชวนให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น ชี้ให้เห็นจุดเด่น ข้อควรพัฒนา และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากผลงานของเพื่อน ๆ
  • ปิดท้ายด้วยการสรุปบทเรียน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้จากการทำกิจกรรมในแต่ละส่วน รวมถึงสิ่งที่จะนำไปปรับใช้กับการเรียนรู้หรือการใช้ชีวิตประจำวัน

 

บทสนทนา

หัวข้อบทสนทนาที่ใช้ในการเปิดประเด็นชวนคิดจากกิจกรรม

  • ศิลปะเเละการเต้นมีการเคลื่อนไหวต่างกับการเคลื่อนไหวของมนุษย์ปกติ ชวนคุยเเละสังเกตุถึงสิ่งที่ทำให้การเต้นมีความพิเศษ
  • จากท่าเต้นที่เห็น ท่าไหนสวย หรือ น่าสนใจที่สุด ชวนคุยกันถึงเหตุผลเเละตั้งข้อสงสัยว่าอะไรทำให้ท่าเต้นดูสวยหรือน่าสนใจ
  • ถาพที่ใช้ทำความเข้าใจเเม่บทใหญ่ในปัจจุบันเกิดขึ้นจากการเข้ามาของกล้องถ่ายรูปเมื่อ 100 ปีที่เเล้ว ชวนคุยเกี่ยวกับกล้องเเละบทบาทของเทคโนโลยีต่อการทำงานศิลปะ
  • การถอดรหัสอาจจะมีถูกต้องตามคนคิดดั้งเดิม หรือ คิดเเตกต่างออกไป ชวนคุยเกี่ยวกับรหัสที่เจอในชีวิตประจำวัน เราถอดรหัสในชีวิตประจำวันไปทำไม เเล้วกระบวนการอะไรบ้างที่สำคัญให้เราไขรหัสออก
  • ชวนคุยเรื่องหลักการเเละ diagram ที่เเต่ละคนวาดขึ้นมาว่าทำงานอย่างไร มีเเรงบันดาลใจมาจากอะไร

 

เพิ่มเติม

  • เชิญวิทยากรหรือนักเต้นมืออาชีพมาสาธิตท่าทางพื้นฐานและเล่าเรื่องราวเบื้องหลังท่ารำ
  • ให้ผู้เรียนลองออกแบบชุด การแต่งหน้า หรืออุปกรณ์ประกอบการแสดงในแบบของตัวเอง
  • จัดการแสดงหรือการประกวดท่าเต้น โดยมีการตัดสินจาก diagram ความคิดสร้างสรรค์ และการนำเสนอ

วิธีการออกแบบกิจกรรมเช่นนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เรียน กระตุ้นความคิด และสร้างการมีส่วนร่วม ตลอดจนทำให้การเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมเป็นเรื่องสนุกและท้าทายไปพร้อมกัน การเชื่อมโยงองค์ความรู้ดั้งเดิมกับบริบทปัจจุบันก็จะช่วยสร้างความเข้าใจและมุมมองใหม่ๆ ให้กับผู้เรียน