Learning Idea 3: นักท่องเที่ยวต่างดาว | Alien Tourism

คำอธิบาย สวมบทบาทเป็นนักท่องเที่ยวต่างดาวที่มาเยือนโลกในอนาคต สำรวจร่องรอยอารยธรรมมนุษย์ผ่านท่ารำในแม่บทใหญ่และระบบ Cyber Subin Lab จินตนาการถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนในอดีต ฝึกการสังเกตและตีความหลักฐานทางศิลปะการแสดง เพื่อทำความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์และสังคมที่พวกเขาสร้างขึ้น

 

เหมาะสำหรับ ประถม, มัธยม, มหาวิทยาลัย และบุคคลทั่วไปที่สนใจในศิลปะ มานุษยวิทยา และอนาคตศึกษา

 

คำชี้แจง กิจกรรมนี้เป็นการใช้จินตนาการเพื่อมองวัฒนธรรมในมุมใหม่ ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด ขอเพียงผู้เข้าร่วมเปิดใจ กล้าคิด และพร้อมแบ่งปันมุมมองที่แตกต่างหลากหลาย

 

สิ่งที่จะได้เรียนรู้

– ฝึกทักษะการสังเกต วิเคราะห์ และตีความข้อมูลทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง
– เพิ่มพูนจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และมุมมองเชิงสหวิทยาการ
– พัฒนาความเข้าใจอย่างรอบด้านเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์และพลวัตทางสังคม
– ส่งเสริมการคิดเชิงอนาคต (futures thinking)

สนุกอย่างไร

– ได้ย้อนเวลากลับไปสำรวจโลกในอดีตผ่านสายตาของนักท่องเที่ยวต่างดาว
– เกิดความรู้สึกตื่นเต้นในการไขปริศนาทางวัฒนธรรมและค้นหาเรื่องราวที่ซ่อนอยู่
– สนุกไปกับการจินตนาการและวาดภาพอนาคตที่เป็นไปได้ในแบบฉบับของตัวเอง

 

กิจกรรม (ใช้เวลา 90-120 นาที)

– ผู้เข้าร่วมสวมบทบาทเป็นนักท่องเที่ยวต่างดาวที่เดินทางมาเยือนโลกในอนาคต มนุษย์ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว เหลือเพียงร่องรอยทางวัฒนธรรมให้เห็นเป็นหลักฐาน
– แบ่งผู้เข้าร่วมเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4-5 คน แจกชุดภาพท่ารำจากแม่บทใหญ่ทั้ง 59 ท่าให้แต่ละกลุ่ม ให้เวลาสังเกตและวิเคราะห์ภาพอย่างละเอียด
– ให้แต่ละกลุ่มทดลองใช้งานระบบ Cyber Subin Lab เพื่อสร้างท่าเต้นจากหุ่นยนต์ สังเกตลักษณะท่าทางและรูปแบบการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น
– สมมติว่าภาพท่ารำและหุ่นยนต์เต้นคือหลักฐานชิ้นเดียวที่หลงเหลือบนโลก ให้ผู้เข้าร่วมในกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์ว่าข้อมูลเหล่านี้สะท้อนภาพมนุษย์และวัฒนธรรมอย่างไร
– ระดมสมองภายในกลุ่มเพื่อเขียนบรรยายลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่สร้างท่ารำและเทคโนโลยีเหล่านี้ขึ้นมา ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ความสามารถ ค่านิยม ความเชื่อ วิถีชีวิต ฯลฯ
– ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการวิเคราะห์และจินตนาการของตน โดยแต่งเรื่องราวประกอบเพื่อให้น่าสนใจ เปิดโอกาสให้เพื่อนๆ ซักถามและแสดงความคิดเห็น
– เชื่อมโยงการนำเสนอของทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน สร้างเป็นภาพรวมของอารยธรรมมนุษย์จากมุมมองของนักท่องเที่ยวต่างดาว
– ชวนผู้เข้าร่วมสะท้อนกลับถึงภาพสังคมมนุษย์ในปัจจุบัน จุดเด่น ข้อท้าทาย และแนวโน้มในอนาคต สิ่งใดน่าเป็นห่วง สิ่งใดน่าภาคภูมิใจ เราจะรักษาและสานต่อสิ่งดีงามอย่างไร
– สรุปบทเรียนและข้อคิดที่ได้จากการทำกิจกรรม แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของศิลปะและเทคโนโลยีต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์ในฐานะสังคม

 

หัวข้อสนทนา
– ท่ารำและเทคโนโลยีสะท้อนความเป็นมนุษย์ในแง่ใดบ้าง มีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นหรือแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อย่างไร
– มนุษย์ในอดีตอาจมีความคิด ความเชื่อ หรือวิถีชีวิตเช่นไร จึงสร้างสรรค์ท่ารำและเทคโนโลยีเช่นที่ปรากฏในหลักฐาน
– ท่าทางหรือลีลาการเคลื่อนไหวในศิลปะการแสดงยุคโบราณ สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกหรือสื่อสารเรื่องราวได้อย่างไร ต่างจากปัจจุบันหรือไม่
– หากมนุษย์สูญพันธุ์ไปจากโลก ศิลปะและเทคโนโลยีจะยังคงอยู่หรือไม่ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด
– การมองอารยธรรมของตนเองผ่านสายตาคนนอก ช่วยให้เราค้นพบแง่มุมใหม่ๆ เกี่ยวกับตัวเราเองและสังคมที่เราอยู่ได้อย่างไรบ้าง

 

เพิ่มเติม
– เพิ่มความท้าทายโดยจำกัดเวลาในการศึกษาข้อมูลและเขียนบรรยายลักษณะของมนุษย์ เพื่อจำลองสถานการณ์ของการสำรวจข้อมูลอย่างเร่งด่วนก่อนออกจากดาวเคราะห์
– สร้างเอกสารหรือหนังสือภาพประกอบการนำเสนอ เพื่อเป็นรายงานการสำรวจโลกของนักท่องเที่ยวต่างดาว ประกอบด้วยภาพท่ารำ ภาพจากระบบ Cyber Subin Lab และบทความอธิบายลักษณะของมนุษย์และสังคม
– ให้ผู้เข้าร่วมแต่ละคนวาดภาพ ปั้นโมเดล หรือใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ออกแบบสิ่งมีชีวิตที่สร้างท่ารำและเทคโนโลยีนี้ขึ้นมา จากนั้นจัดนิทรรศการ นำเสนอผลงานสู่สาธารณะ
– เชิญวิทยากรจากสาขาต่างๆ เช่น มานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ ปรัชญา ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับอารยธรรมในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและประเด็นการเรียนรู้ที่หลากหลาย

 

กิจกรรมนี้ให้โอกาสผู้เรียนได้มองย้อนกลับมาทำความเข้าใจวัฒนธรรมและสังคมผ่านเลนส์ใหม่ ผสมผสานการคิดเชิงวิเคราะห์ การใช้จินตนาการ และการเชื่อมโยงความรู้ข้ามศาสตร์เข้าด้วยกัน การวางตัวเองไว้ในมุมมองของคนนอก จะทำให้ผู้เรียนสามารถเห็นสิ่งที่มักถูกมองข้ามในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นความงดงามของศิลปะ ความซับซ้อนของการสร้างสรรค์ หรือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสรรพสิ่ง ประสบการณ์เช่นนี้จะช่วยเปิดโลกทัศน์ กระตุ้นการตั้งคำถาม และจุดประกายให้ผู้เรียนเกิดความใฝ่รู้ อยากค้นหาคำตอบด้วยตนเองต่อไป ทั้งยังเป็นการปลูกฝังมุมมองระยะยาว ส่งเสริมการวางแผนและตัดสินใจบนฐานคิดที่คำนึงถึงความยั่งยืน ซึ่งเป็นทักษะจำเป็นในการสร้างสรรค์อนาคตที่พึงปรารถนาร่วมกันครับ