Learning Idea 6: พิพิธภัณฑ์นาฎศิลป์ติ๊กต๊อก | Tiktok Dance Museum

คำอธิบาย เรียนรู้นาฎศิลป์ท่ารำแม่บทใหญ่ผ่านการสร้าง Tiktok ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยใช้ AI ที่พัฒนาขึ้นจากท่ารำแม่บทใหญ่ในการนำเสนอ choreography แบบดั้งเดิม และสร้างสรรค์ท่าเต้นแนวใหม่ขึ้นมา ผู้เข้าร่วมจะได้ลองเต้นตามและอัดวิดีโอ บันทึกประสบการณ์และความรู้สึก แล้วนำมาสร้างเป็นวิดีโอสั้นสำหรับ Tiktok เพื่อแบ่งปันวิวัฒนาการของท่ารำจากอดีตสู่ปัจจุบันและอนาคต ชวนชวนผู้ชมมาร่วมท้าทายตัวเองสนุกๆ ผ่านแฮชแท็ก #TiktokDanceMuseum

 

เหมาะสำหรับ มัธยม, มหาวิทยาลัย และผู้ที่ชื่นชอบการเต้นและการถ่ายวิดีโอ

 

สิ่งที่จะได้เรียนรู้
– เข้าใจบทบาทของเทคโนโลยี AI ในการสืบสานและพัฒนานาฎศิลป์ไทย รวมถึงวิธีการประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
– พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการต่อยอดภูมิปัญญาดั้งเดิมให้สอดคล้องกับยุคสมัย และดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่
– เรียนรู้หลักการสร้างวิดีโอสั้นให้น่าสนใจ มีเอกลักษณ์ และสื่อสารเรื่องราวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– ฝึกทักษะการแสดงออก การสื่อสารความคิด และกล้าที่จะนำเสนอมุมมองของตัวเองต่อสาธารณะ
– สร้างความตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์นาฎศิลป์ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตและมรดกทางดิจิทัล

 

สนุกอย่างไร

  • ได้ลองเต้นตามท่ารำแม่บทในรูปแบบดั้งเดิมและฉบับประยุกต์ ผ่านการสาธิตโดย AI ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี
  • สนุกกับการท้าทายตัวเองในการผสมผสานท่าเต้นแบบใหม่เข้ากับท่ารำโบราณ ปล่อยของกับจินตนาการอย่างเต็มที่
  • ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและตัดต่อวิดีโอ Tiktok ให้ออกมาสวยงามและดึงดูดใจ
  • รู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้โพสต์ผลงานของตัวเองและเห็นคนมาร่วมทำท่าเต้นตามในแฮชแท็ก #TiktokDanceMuseum
  • เพลิดเพลินไปกับการชมผลงานของผู้อื่น แลกเปลี่ยนไอเดียและเทคนิคในการสร้างสรรค์วิดีโอให้โดดเด่นน่าสนใจ

 

กิจกรรม (ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง)

1. แนะนำ “cyber subin lab” เว็บแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ในการสร้างท่าเต้นร่วมกับนักเต้นมนุษย์ ให้ผู้เข้าร่วมทดลองสั่งงานด้วยเสียงเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวละคร

2. ให้ AI ที่สร้างจากท่ารำแม่บทใหญ่สาธิตการเต้น choreography แบบดั้งเดิม ให้ผู้เข้าร่วมลองเต้นตามและอัดวิดีโอ บันทึกประสบการณ์และความรู้สึก

3. สั่งให้ AI สร้างสรรค์ท่าเต้นขึ้นใหม่ ผสมผสานกับท่ารำแบบดั้งเดิม ให้ผู้เข้าร่วมลองเต้นตามและอัดวิดีโอ บันทึกประสบการณ์และความรู้สึก

4. ให้แต่ละคนหรือกลุ่มสร้างวิดีโอสำหรับ Tiktok หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยเล่าเรื่องวิวัฒนาการจากอดีตไปสู่ท่ารำใหม่อย่างย่อๆ ชวนคนอื่นมาท้าทายตัวเองทำตาม โพสต์โดยใช้แฮชแท็ก #TiktokDanceMuseum

5. จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์จากการทำวิดีโอ และให้คอมเมนต์เชิงสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาผลงานกันต่อไป

6. สนทนาร่วมกันเกี่ยวกับการอนุรักษ์นาฎศิลป์ในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตและมรดกทางดิจิทัล บทบาทของเทคโนโลยีและ AI ในการสืบสานและพัฒนาศิลปะการเต้น รวมถึงวิธีการนำนาฎศิลป์ไทยโบราณมาเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ในรูปแบบที่น่าสนใจและสร้างสรรค์

 

หัวข้อสนทนา

  • ท่าเต้นที่สร้างโดย AI มีความแตกต่างจากท่าเต้นที่คิดค้นโดยมนุษย์อย่างไร และมีข้อดีข้อเสียในการนำมาใช้งานจริงอย่างไรบ้าง
  • การนำเสนอนาฎศิลป์ไทยผ่านวิดีโอ Tiktok จะช่วยดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ได้มากน้อยแค่ไหน และมีแนวทางอื่นๆ ในการส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอย่างไรบ้าง
  • ปัจจัยใดบ้างที่ทำให้วิดีโอ Tiktok มีเสน่ห์น่าติดตาม และเราจะนำปัจจัยเหล่านี้มาปรับใช้ในการสร้างผลงานของตัวเองได้อย่างไร
  • การใช้เทคโนโลยีและสื่อสมัยใหม่ในการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม จะส่งผลกระทบทางบวกและทางลบต่อสังคมในระยะยาวอย่างไร
  • กิจกรรมนี้ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อนาฎศิลป์ไทยไปในทางใด และจุดประกายความคิดในการนำศาสตร์ด้านต่างๆ มาผสมผสานเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ๆ อย่างไรบ้าง

 

เพิ่มเติม

  • ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านนาฎศิลป์ไทยในการออกแบบเนื้อหาและตรวจสอบความถูกต้องของท่าเต้นที่สร้างโดย AI
  • นำวิดีโอที่มีคุณภาพดีและได้รับความนิยมสูงมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ทั้งในรูปแบบนิทรรศการจริงและออนไลน์
  • จัดประกวด Tiktok ระดับประเทศ เพื่อค้นหาสุดยอดนักสร้างสรรค์ผลงานที่สามารถนำนาฎศิลป์ไทยมาเผยแพร่ได้อย่างโดดเด่น น่าสนใจ
  • เชิญชวนศิลปินและบุคคลที่มีชื่อเสียงมาร่วมท้าทายในแฮชแท็ก #TiktokDanceMuseum เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและความน่าเชื่อถือให้กับกิจกรรม
  • พัฒนาหลักสูตรเวิร์คช็อปการสร้างคอนเทนต์นาฎศิลป์ร่วมสมัย สอนเทคนิคการใช้ AI เครื่องมือตัดต่อวิดีโอ และกลยุทธ์การโปรโมตผลงานบนโซเชียลมีเดีย

กิจกรรมนี้ถือเป็นพื้นที่แห่งการทดลองในการนำนาฎศิลป์ไทยดั้งเดิมมาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสื่อสารเรื่องราวของศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย น่าสนใจ และชวนให้คนรุ่นใหม่อยากมีส่วนร่วม ผู้เข้าร่วมจะได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และสำรวจแนวทางในการปรับใช้ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เข้ากับยุคสมัย เรียนรู้ที่จะภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของชาติและพร้อมที่จะสานต่อเจตนารมณ์ในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไป